top of page

ปฏิรูประบบประกันสังคมแรงงานไทยแรงงานไทยต้องมาก่อน - การปฏิรูประบบประกันสังคมเพื่อให้แรงงานได้รับผลประโยชน์สูงสุด



ระบบประกันสังคมเป็นเสาหลักสำคัญในการสร้างความมั่นคงให้แก่แรงงานไทย แต่ปัจจุบันระบบนี้ยังมีข้อจำกัดมากมาย ทั้งในด้านความครอบคลุมของสิทธิประโยชน์ ความไม่สมดุลของการจ่ายเงินสมทบ และภาระที่ตกอยู่กับแรงงานมากกว่านายจ้าง การปฏิรูประบบประกันสังคมให้ทันสมัยและเป็นธรรมจึงเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อให้แรงงานไทยได้รับการดูแลที่ดีขึ้น และไม่ถูกเอาเปรียบจากระบบที่ไม่สมเหตุสมผล

1. ปัญหาของระบบประกันสังคมปัจจุบัน

1.1 ผลประโยชน์ที่ไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพ

✅ เงินชดเชยกรณีว่างงานและเงินทดแทนเจ็บป่วยต่ำเกินไป ไม่เพียงพอสำหรับการดำรงชีวิต✅ ค่ารักษาพยาบาลที่ครอบคลุมในระบบประกันสังคมยังมีข้อจำกัดสูง เมื่อเทียบกับระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า✅ เงินบำนาญที่ได้รับหลังเกษียณไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตจริง

1.2 ภาระเงินสมทบที่ไม่เป็นธรรม

✅ แรงงานต้องจ่ายเงินสมทบทุกเดือน แม้ในบางกรณีอาจไม่ได้รับผลประโยชน์ที่คุ้มค่า✅ นายจ้างบางส่วนพยายามหลีกเลี่ยงการจ่ายเงินสมทบ หรือจ่ายในอัตราต่ำกว่าที่ควร✅ การกำหนดอัตราเงินสมทบไม่สะท้อนรายได้ที่แท้จริงของแรงงาน ทำให้แรงงานรายได้น้อยได้รับผลกระทบมาก

1.3 ระบบการบริหารจัดการที่ล้าสมัยและไม่มีประสิทธิภาพ

✅ กระบวนการเบิกจ่ายล่าช้า และมีข้อจำกัดในการใช้สิทธิ✅ ขาดความโปร่งใสในการบริหารกองทุน ทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจจากแรงงาน✅ ระบบบริการลูกค้ายังมีข้อบกพร่อง ทำให้แรงงานได้รับข้อมูลที่คลาดเคลื่อนและล่าช้า

1.4 งานบางประเภทไม่อยู่ในระบบประกันสังคม

✅ แรงงานอิสระ แรงงานฟรีแลนซ์ และแรงงานแพลตฟอร์มจำนวนมากไม่ได้รับสิทธิประกันสังคมที่เท่าเทียมกับแรงงานประจำ✅ ระบบประกันสังคมยังไม่สามารถรองรับแรงงานในอาชีพที่มีลักษณะไม่เป็นทางการ เช่น เกษตรกร ผู้ค้ารายย่อย หรือแรงงานกิ๊กอีโคโนมี (Gig Economy)✅ แรงงานที่ประกอบอาชีพอิสระไม่มีมาตรการบังคับให้ออมเงินเพื่อรองรับความเสี่ยงในอนาคต

1.5 ระบบประกันสังคมไม่รองรับการทำงานหลังเกษียณอายุ

✅ ปัจจุบันอายุเกษียณที่ 55 หรือ 60 ปี ไม่สอดคล้องกับแนวโน้มของประชากรสูงวัยที่ยังสามารถทำงานได้✅ ไม่มีมาตรการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุสามารถทำงานต่อไปโดยยังได้รับสิทธิประกันสังคม✅ แรงงานที่เกษียณแล้วแต่ยังต้องการทำงาน ไม่สามารถนำเงินสมทบที่เคยจ่ายกลับมาใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่

2. แนวทางปฏิรูประบบประกันสังคมให้เป็นธรรมและมีประสิทธิภาพ

2.1 เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้สอดคล้องกับความเป็นจริง

✅ ปรับเพิ่มเงินชดเชยกรณีว่างงานให้สะท้อนค่าครองชีพที่แท้จริง✅ ขยายความครอบคลุมของค่ารักษาพยาบาล ให้สามารถใช้กับสถานพยาบาลเอกชนได้มากขึ้น✅ ปรับปรุงเงินบำนาญให้สอดคล้องกับรายได้ที่แท้จริง และให้แรงงานสามารถเลือกสะสมเงินเพิ่มเติมได้

2.2 ปรับสมดุลภาระเงินสมทบ

✅ ลดภาระเงินสมทบของแรงงาน โดยให้นายจ้างมีส่วนร่วมในการจ่ายมากขึ้น✅ ใช้ระบบอัตราก้าวหน้า (Progressive Contribution) โดยผู้ที่มีรายได้สูงต้องจ่ายเงินสมทบในสัดส่วนที่สูงขึ้น✅ ปรับโครงสร้างการจัดเก็บเงินสมทบให้ยืดหยุ่นมากขึ้นสำหรับแรงงานอิสระ

2.3 ปรับปรุงการบริหารจัดการให้โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ

✅ ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการเบิกจ่ายเงินประกันสังคมเพื่อลดระยะเวลาการดำเนินการ✅ เปิดเผยข้อมูลทางการเงินของกองทุนประกันสังคมให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้✅ จัดตั้งคณะกรรมการอิสระที่มีตัวแทนจากแรงงานเข้าไปตรวจสอบการบริหารกองทุน

2.4 ปรับปรุงระบบประกันสังคมให้ครอบคลุมแรงงานทุกกลุ่ม

✅ ออกแบบแพ็กเกจประกันสังคมที่เหมาะสมกับแรงงานอิสระและแรงงานแพลตฟอร์ม✅ ให้สิทธิประโยชน์ที่เท่าเทียมกันระหว่างแรงงานประจำและแรงงานอิสระ✅ สนับสนุนการออมภาคสมัครใจสำหรับแรงงานนอกระบบ เพื่อให้มีเงินสำรองในอนาคต

2.5 ปรับระบบให้รองรับการทำงานหลังเกษียณ

✅ ขยายอายุเกษียณให้ยืดหยุ่นตามความสามารถของแรงงานแต่ละคน✅ เปิดโอกาสให้แรงงานที่เกษียณแล้วสามารถเข้าร่วมระบบประกันสังคมต่อไปได้✅ ให้เงินบำนาญสามารถปรับเพิ่มขึ้นตามค่าครองชีพและอายุขัยของประชากร

3. ตัวอย่างประเทศที่มีระบบประกันสังคมที่ดี

สิงคโปร์: ใช้ระบบ Central Provident Fund (CPF) ที่ให้แรงงานสามารถเลือกลงทุนเงินสะสมได้เอง และได้รับผลตอบแทนที่สูง✅ เยอรมนี: มีระบบเงินบำนาญแบบยืดหยุ่น ที่คำนึงถึงค่าครองชีพและอายุขัยของประชากร✅ แคนาดา: มีระบบประกันสังคมที่ให้ความคุ้มครองทั้งค่ารักษาพยาบาลและเงินชดเชยกรณีว่างงานอย่างครอบคลุม

บทสรุป

ระบบประกันสังคมต้องได้รับการปฏิรูปเพื่อให้แรงงานได้รับผลประโยชน์สูงสุด และรองรับแรงงานทุกกลุ่ม รวมถึงแรงงานอิสระและแรงงานสูงวัยที่ยังต้องการทำงาน การเพิ่มความคุ้มครอง ลดภาระเงินสมทบ และทำให้การบริหารกองทุนมีความโปร่งใส จะช่วยให้แรงงานไทยมีความมั่นคงมากขึ้น และสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ


📢 สื่ออิเล็กทรอนิกส์ของพรรคเส้นด้ายนี้ ได้รับการอุดหนุนงบประมาณจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองผู้ว่าจ้าง: พรรคเส้นด้าย เลขที่ 226/1 ถนนเพชรเกษม แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร 10600ผู้ผลิต: บจก.ฟรีมาร์เก็ตเทียร์ เลขที่ 74/6 ถนนพระราม 6 แขวงพญาไท เขตพญาไท กทม 10400จำนวนที่ผลิต: 1 โพสต์งบประมาณ: 3,000 บาทผลิตตามวันและเวลาที่ปรากฏ

 
 
 

Recent Posts

See All
ยกเลิกภาษีน้ำมัน | ประเทศที่ลดภาษีน้ำมัน: ไทยเรียนรู้อะไรได้บ้าง?

หลายประเทศทั่วโลกได้เริ่มต้นลดหรือยกเลิกภาษีน้ำมัน เพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชน ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และสนับสนุนอุตสาหกรรมสำคัญให้สามาร...

 
 
 
ยกเลิกภาษีน้ำมัน | ลดภาษีน้ำมันหรืออุดหนุนราคา แบบไหนคือคำตอบที่ดีกว่าสำหรับประเทศไทย?

เมื่อน้ำมันกลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของทุกคน ราคาน้ำมันที่เปลี่ยนแปลงจึงส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพโดยตรง ตั้งแต่ค่าเดินทางไปทำงานไปจน...

 
 
 

Comments


226/1 ถนนเพชรเกษม แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ 10160

bottom of page