top of page

ปล่อยเงินกู้เพื่อการศึกษาให้ง่ายขึ้น - แนวทางลดดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อการศึกษาและเพิ่มโอกาสชำระคืน


การศึกษาถือเป็นการลงทุนที่สำคัญ แต่ภาระหนี้จากเงินกู้เพื่อการศึกษากลับเป็นอุปสรรคสำหรับนักศึกษาและบัณฑิตจำนวนมาก ปัจจุบันดอกเบี้ยของเงินกู้เพื่อการศึกษายังอยู่ในระดับที่สร้างภาระให้กับผู้กู้ ส่งผลให้การชำระหนี้ล่าช้า และทำให้หลายคนไม่สามารถตั้งตัวได้หลังเรียนจบ การปฏิรูประบบเงินกู้เพื่อการศึกษาให้มีอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมและเพิ่มความยืดหยุ่นในการชำระคืน จะช่วยให้การศึกษาเป็นโอกาสที่แท้จริงสำหรับทุกคน

1. ปัญหาของระบบดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อการศึกษาในปัจจุบัน

1.1 อัตราดอกเบี้ยสูงเกินไป

✅ ดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อการศึกษาของไทยยังอยู่ในระดับที่สูงเมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว✅ การคิดดอกเบี้ยทบต้นทำให้ภาระหนี้เพิ่มขึ้น แม้จะมีการชำระคืนอย่างต่อเนื่อง✅ นักศึกษาจบใหม่ต้องเผชิญกับภาระหนี้ทันที โดยไม่มีระยะเวลาผ่อนปรนให้ตั้งตัวก่อน

1.2 ระบบการชำระคืนที่ไม่ยืดหยุ่น

✅ ผู้กู้ต้องเริ่มชำระหนี้แม้ว่าจะยังไม่มีรายได้ที่มั่นคง✅ ไม่มีมาตรการช่วยเหลือผู้กู้ที่ตกงานหรือมีรายได้ต่ำ✅ การค้างชำระหนี้ส่งผลต่อเครดิตทางการเงิน ทำให้ผู้กู้ขาดโอกาสในการขอสินเชื่ออื่น ๆ ในอนาคต

2. แนวทางลดดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อการศึกษา

2.1 ปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำลง

✅ ลดดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อการศึกษาให้อยู่ในระดับ 0-1% หรือให้ปลอดดอกเบี้ยสำหรับนักศึกษาที่มีฐานะยากจน✅ กำหนดเพดานดอกเบี้ยสูงสุด ไม่ให้เกิดการคิดดอกเบี้ยทบต้นที่สร้างภาระเกินจำเป็น✅ ใช้โมเดลการอ้างอิงอัตราดอกเบี้ยจากอัตราเงินเฟ้อ (CPI) คล้ายกับระบบ HECS-HELP ของออสเตรเลีย

2.2 ขยายระยะเวลาผ่อนชำระและให้ความยืดหยุ่นมากขึ้น

✅ ให้สิทธิ์พักชำระหนี้ 2-5 ปีแรกหลังเรียนจบ หรือจนกว่าผู้กู้มีรายได้ถึงเกณฑ์ที่กำหนด✅ ปรับโครงสร้างการชำระคืนให้สอดคล้องกับรายได้ของผู้กู้ เช่น หักเป็นเปอร์เซ็นต์ของเงินเดือน✅ ให้ผู้กู้สามารถเลือกแผนการชำระคืนที่เหมาะสมกับสถานะทางการเงินของตนเอง

2.3 ส่งเสริมการแปลงหนี้เป็นโอกาสทางอาชีพ

✅ ให้นักศึกษาที่กู้เงินสามารถทำงานภาครัฐหรือเข้าร่วมโครงการเพื่อสังคม แลกกับการลดหนี้บางส่วน✅ สนับสนุนให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือชำระหนี้ เช่น โครงการ "เรียนจบแล้วทำงานใช้หนี้"✅ สร้างโครงการฝึกอบรมและการจ้างงานที่รับประกันรายได้ขั้นต่ำสำหรับผู้กู้

3. ตัวอย่างประเทศที่มีระบบดอกเบี้ยต่ำและโอกาสชำระคืนที่ยืดหยุ่น

ออสเตรเลีย - ระบบ HECS-HELP

✅ ดอกเบี้ยเป็น 0% และปรับขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อเท่านั้น✅ ผู้กู้เริ่มชำระคืนเมื่อมีรายได้เกิน 47,000 AUD ต่อปี✅ การชำระคืนดำเนินการผ่านระบบภาษี ทำให้ไม่ต้องติดตามหนี้ด้วยตนเอง

เยอรมนี - ระบบ BAföG

✅ เงินกู้เพื่อการศึกษามีดอกเบี้ย 0%✅ มีเพดานหนี้สูงสุดที่ต้องชำระคืน ไม่เกิน 10,000 ยูโร✅ การผ่อนชำระคืนสามารถเลื่อนออกไปได้หากผู้กู้ยังไม่มีงานทำ

สวีเดน - ระบบ CSN

✅ ดอกเบี้ยต่ำมาก (ประมาณ 0.05-0.1% ต่อปี)✅ สามารถผ่อนชำระได้นานถึง 25 ปี✅ มีตัวเลือกเลื่อนการชำระหนี้ในกรณีที่มีปัญหาทางการเงิน

4. ผลลัพธ์ที่คาดหวังจากการปฏิรูประบบดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อการศึกษา

✅ ลดภาระหนี้ของนักศึกษา และช่วยให้สามารถเริ่มต้นชีวิตได้อย่างมั่นคง✅ เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาสำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย✅ ป้องกันปัญหาหนี้เสีย และช่วยให้ผู้กู้สามารถบริหารจัดการหนี้ได้ดีขึ้น✅ สร้างระบบการศึกษาและตลาดแรงงานที่ยั่งยืนในระยะยาว

บทสรุป

การลดดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อการศึกษาและเพิ่มโอกาสชำระคืน จะช่วยให้ระบบการศึกษาเป็นธรรมและเข้าถึงได้มากขึ้น การปฏิรูประบบให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและรายได้ของผู้กู้ จะช่วยให้คนไทยมีโอกาสเรียนรู้โดยไม่ต้องแบกรับภาระหนี้เกินจำเป็น และสามารถพัฒนาตัวเองเพื่อสร้างอนาคตที่มั่นคงได้

📢 สื่ออิเล็กทรอนิกส์ของพรรคเส้นด้ายนี้ ได้รับการอุดหนุนงบประมาณจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองผู้ว่าจ้าง: พรรคเส้นด้าย เลขที่ 226/1 ถนนเพชรเกษม แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร 10600ผู้ผลิต: บจก.ฟรีมาร์เก็ตเทียร์ เลขที่ 74/6 ถนนพระราม 6 แขวงพญาไท เขตพญาไท กทม 10400จำนวนที่ผลิต: 1 โพสต์งบประมาณ: 3,000 บาทผลิตตามวันและเวลาที่ปรากฏ

 
 
 

Recent Posts

See All
ยกเลิกภาษีน้ำมัน | ประเทศที่ลดภาษีน้ำมัน: ไทยเรียนรู้อะไรได้บ้าง?

หลายประเทศทั่วโลกได้เริ่มต้นลดหรือยกเลิกภาษีน้ำมัน เพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชน ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และสนับสนุนอุตสาหกรรมสำคัญให้สามาร...

 
 
 
ยกเลิกภาษีน้ำมัน | ลดภาษีน้ำมันหรืออุดหนุนราคา แบบไหนคือคำตอบที่ดีกว่าสำหรับประเทศไทย?

เมื่อน้ำมันกลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของทุกคน ราคาน้ำมันที่เปลี่ยนแปลงจึงส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพโดยตรง ตั้งแต่ค่าเดินทางไปทำงานไปจน...

 
 
 

Comments


226/1 ถนนเพชรเกษม แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ 10160

bottom of page