ล้างหนี้โควิด - มาตรการช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็กและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ
- ZENDAI PARTY

- Dec 10, 2024
- 1 min read
วิกฤตโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจขนาดเล็กและผู้ประกอบการรายย่อย (SMEs) หลายแห่งต้องปิดกิจการ ขาดสภาพคล่อง และเผชิญกับภาระหนี้สินจำนวนมาก การช่วยเหลือกลุ่มธุรกิจนี้ไม่เพียงแต่เป็นการบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจ แต่ยังช่วยสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถฟื้นตัว และกลับมาเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้อีกครั้ง
1. ปัญหาหลักที่ SMEs เผชิญหลังวิกฤตโควิด
1.1 ปัญหาสภาพคล่องและภาระหนี้สิน
✅ รายได้ลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงล็อกดาวน์ แต่ภาระค่าใช้จ่ายคงที่ยังคงอยู่ เช่น ค่าเช่าที่ ค่าจ้างพนักงาน และค่าดำเนินการ✅ SMEs หลายแห่งต้องกู้เงินเพิ่มเพื่อประคองธุรกิจ ทำให้มีหนี้สินสะสมมากขึ้น✅ เงื่อนไขการปล่อยสินเชื่อของธนาคารยังเข้มงวด ทำให้ธุรกิจขนาดเล็กไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่าย
1.2 ปัญหาการปรับตัวสู่เศรษฐกิจยุคใหม่
✅ ธุรกิจที่พึ่งพารายได้จากหน้าร้านเป็นหลักประสบปัญหาในการแข่งขันกับแพลตฟอร์มออนไลน์✅ ผู้ประกอบการจำนวนมากขาดทักษะด้านเทคโนโลยี และการตลาดดิจิทัล✅ ห่วงโซ่อุปทานหยุดชะงัก ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้นและการผลิตล่าช้า
1.3 ปัญหาการจ้างงานและต้นทุนดำเนินการที่เพิ่มขึ้น
✅ SMEs ต้องลดจำนวนพนักงานเพื่อลดค่าใช้จ่าย ทำให้เกิดปัญหาการว่างงานในวงกว้าง✅ ค่าครองชีพและต้นทุนพลังงานที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจต้องเผชิญกับต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น✅ การฟื้นตัวของธุรกิจช้า ทำให้ขาดแรงจูงใจในการขยายกิจการหรือจ้างงานเพิ่ม
2. มาตรการช่วยเหลือ SMEs และผู้ประกอบการ
2.1 มาตรการช่วยลดภาระหนี้และเพิ่มสภาพคล่อง
✅ ออกโครงการพักชำระหนี้สำหรับ SMEs ที่ได้รับผลกระทบหนัก พร้อมลดอัตราดอกเบี้ยเป็นพิเศษ✅ จัดตั้งกองทุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) โดยมีรัฐค้ำประกันให้ SMEs สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น✅ สนับสนุนให้ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินใช้แนวทาง “แปลงหนี้เป็นทุน” สำหรับธุรกิจที่มีศักยภาพในการฟื้นตัว
2.2 การสนับสนุนให้ SMEs ปรับตัวสู่เศรษฐกิจดิจิทัล
✅ อบรมและให้เงินสนับสนุน SMEs ในการพัฒนาระบบขายออนไลน์และการตลาดดิจิทัล✅ สนับสนุนให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของไทยโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมในช่วงฟื้นตัว✅ ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับธุรกิจที่ลงทุนด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม
2.3 มาตรการลดต้นทุนดำเนินการและกระตุ้นการจ้างงาน
✅ ลดภาษีและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจในช่วง 3 ปีแรกหลังโควิด✅ ออกมาตรการอุดหนุนค่าจ้างสำหรับ SMEs ที่จ้างงานใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากโควิด✅ สนับสนุนการสร้างเครือข่ายซัพพลายเชนภายในประเทศ เพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้า และช่วยให้ธุรกิจในประเทศเติบโตไปด้วยกัน
3. ตัวอย่างประเทศที่ประสบความสำเร็จในการช่วยเหลือ SMEs หลังโควิด
✅ ญี่ปุ่น: ให้เงินช่วยเหลือโดยตรงแก่ SMEs และออกมาตรการลดภาษีสำหรับธุรกิจที่ปรับตัวเข้าสู่ระบบดิจิทัล✅ เยอรมนี: สนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ พร้อมให้สิทธิพิเศษทางภาษีแก่ SMEs ที่จ้างงานเพิ่ม✅ สิงคโปร์: ให้เงินอุดหนุนค่าจ้างและสนับสนุนการฝึกอบรมทักษะใหม่ให้กับแรงงานในภาคธุรกิจขนาดเล็ก
4. ผลลัพธ์ที่คาดหวังจากมาตรการช่วยเหลือ SMEs
✅ SMEs มีโอกาสฟื้นตัวได้เร็วขึ้น และสามารถกลับมาแข่งขันในตลาดได้✅ ลดปัญหาการว่างงาน โดยธุรกิจขนาดเล็กสามารถจ้างงานเพิ่มได้เร็วขึ้น✅ เศรษฐกิจไทยสามารถฟื้นตัวได้อย่างเข้มแข็ง โดยมี SMEs เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ✅ ธุรกิจสามารถปรับตัวสู่เศรษฐกิจดิจิทัลได้ดีขึ้น ทำให้มีความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว
บทสรุป
การช่วยเหลือ SMEs และผู้ประกอบการหลังโควิดเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้เศรษฐกิจไทยสามารถฟื้นตัวได้อย่างยั่งยืน การสนับสนุนทางการเงิน มาตรการช่วยลดต้นทุน และการส่งเสริมการปรับตัวเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัล จะช่วยให้ SMEs สามารถกลับมาเป็นกำลังหลักของประเทศ และสร้างงานให้กับประชาชนได้อีกครั้ง
📢 สื่ออิเล็กทรอนิกส์ของพรรคเส้นด้ายนี้ ได้รับการอุดหนุนงบประมาณจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองผู้ว่าจ้าง: พรรคเส้นด้าย เลขที่ 226/1 ถนนเพชรเกษม แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร 10600ผู้ผลิต: บจก.ฟรีมาร์เก็ตเทียร์ เลขที่ 74/6 ถนนพระราม 6 แขวงพญาไท เขตพญาไท กทม 10400จำนวนที่ผลิต: 1 โพสต์งบประมาณ: 3,000 บาทผลิตตามวันและเวลาที่ปรากฏ
Comments