เปิดเสรีธนาคาร เพื่อลดช่องว่าง ดอกกู้ ดอกฝาก - ตัวอย่างประเทศที่เปิดเสรีภาคการเงินและผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

การเปิดเสรีภาคการเงินคือหนึ่งในนโยบายที่มีอิทธิพลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศอย่างลึกซึ้ง เมื่อมีการแข่งขันมากขึ้น การตั้งราคาดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม และบริการทางการเงินก็โปร่งใสขึ้น ประชาชนมีทางเลือกมากขึ้นในการใช้บริการทางการเงิน และต้นทุนทางเศรษฐกิจลดลงอย่างมีนัยสำคัญ หลายประเทศที่เปิดเสรีทางการเงินได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ประโยชน์ตกอยู่ที่ประชาชนโดยตรง ไม่ใช่เพียงกลุ่มทุนขนาดใหญ่

1. สิงคโปร์: เปิดให้ Digital Bank และ Fintech เข้าสู่ระบบธนาคารเต็มรูปแบบ

✅ รัฐบาลสิงคโปร์ออกใบอนุญาต Digital Bank ใหม่ให้บริษัทเทคโนโลยี เช่น Grab, Sea Group เข้าสู่ธุรกิจธนาคารโดยตรง✅ ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินเชื่อรายย่อยได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน✅ ระบบดิจิทัลลดต้นทุนการดำเนินงานของธนาคาร ทำให้สามารถเสนออัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่สูงขึ้น และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต่ำลง✅ ส่งผลให้ตลาดการเงินมีการแข่งขันสูงขึ้น กระตุ้นให้ธนาคารเดิมต้องปรับปรุงบริการและลดค่าธรรมเนียมต่าง ๆ

2. สหราชอาณาจักร: Regulatory Sandbox และการเกิดขึ้นของ Challenger Banks

✅ สำนักงานกำกับการเงิน (FCA) เปิดพื้นที่ทดสอบนวัตกรรมทางการเงินแบบไม่ต้องผ่านขั้นตอนอนุญาตปกติ✅ ทำให้เกิดธนาคารใหม่อย่าง Monzo, Starling Bank, Revolut ที่ไม่มีสาขา แต่มีบริการผ่านแอปครบวงจร✅ ประชาชนสามารถเปิดบัญชี โอนเงิน ลงทุน และขอสินเชื่อได้ภายในแอปเดียวโดยใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที✅ ดอกเบี้ยเงินฝากของ Challenger Bank สูงกว่าธนาคารใหญ่เฉลี่ย 2-3 เท่า และค่าธรรมเนียมน้อยกว่าครึ่ง

3. อินเดีย: ระบบ Payment Bank และ UPI (Unified Payments Interface)

✅ อินเดียออกใบอนุญาต Payment Bank ให้บริษัทเอกชน เช่น Airtel, Paytm ให้บริการโอนเงิน ฝากเงิน และจ่ายบิลแบบไม่มีสาขา✅ ระบบ UPI ของอินเดียทำให้ประชาชนสามารถโอนเงินข้ามธนาคารได้ฟรี 24 ชม. ผ่านแอปมือถือทุกค่าย✅ ลดภาระการพึ่งพาธนาคารดั้งเดิม และเพิ่มอำนาจต่อรองให้กับประชาชนในเรื่องค่าธรรมเนียม✅ เพิ่มการเข้าถึงบริการทางการเงินให้ประชาชนในชนบทและกลุ่มที่ไม่มีบัญชีธนาคารเดิม

4. เกาหลีใต้: นโยบาย Open Banking และการเชื่อมโยงข้อมูล

✅ Open Banking เปิดให้แอปการเงินต่าง ๆ เข้าถึงข้อมูลบัญชีธนาคารได้ภายใต้ความยินยอมของผู้ใช้✅ ทำให้แอปเปรียบเทียบดอกเบี้ยและบริการสามารถแสดงข้อมูลจากหลายธนาคารแบบ real-time✅ ผู้บริโภคมีข้อมูลครบถ้วนในการเลือกบริการทางการเงินที่ตรงกับความต้องการและต้นทุนต่ำที่สุด✅ ผลักดันให้ธนาคารปรับปรุงผลิตภัณฑ์และแข่งขันเรื่องอัตราดอกเบี้ยและความโปร่งใส

5. สรุปผลกระทบเชิงบวกจากการเปิดเสรีภาคการเงิน

✅ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เพราะมีผู้เล่นใหม่ที่แข่งขันด้วยเทคโนโลยี ไม่ต้องแบกต้นทุนสาขา✅ ดอกเบี้ยเงินฝากสูงขึ้น เพราะธนาคารต้องจูงใจให้ประชาชนนำเงินเข้าระบบ✅ ลดค่าธรรมเนียมซ่อนเร้น เช่น ค่ารายปี ค่าธรรมเนียมโอน ค่าธรรมเนียมบัตร ฯลฯ✅ ขยายการเข้าถึงสินเชื่อให้ผู้มีรายได้น้อย แรงงานนอกระบบ และกลุ่มที่เคยถูกธนาคารปฏิเสธ✅ กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากและธุรกิจรายย่อย เพราะต้นทุนทางการเงินลดลง

บทเรียนสำหรับประเทศไทย

ประเทศไทยต้องกล้าเปิดระบบธนาคารให้เกิดการแข่งขันจริง ธนาคารไม่ควรเป็นสมบัติของคนไม่กี่กลุ่ม แต่ต้องเป็นระบบที่สร้างโอกาสให้กับทุกคน การเปิดเสรีภาคการเงินจะเป็นก้าวสำคัญของการคืนอำนาจให้ประชาชน ลดต้นทุนชีวิต และปลดล็อกศักยภาพเศรษฐกิจไทยให้ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและความเป็นธรรม

📢 สื่ออิเล็กทรอนิกส์ของพรรคเส้นด้ายนี้ ได้รับการอุดหนุนงบประมาณจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองผู้ว่าจ้าง: พรรคเส้นด้าย เลขที่ 226/1 ถนนเพชรเกษม แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร 10600ผู้ผลิต: บจก.ฟรีมาร์เก็ตเทียร์ เลขที่ 74/6 ถนนพระราม 6 แขวงพญาไท เขตพญาไท กทม 10400จำนวนที่ผลิต: 1 โพสต์งบประมาณ: 3,000 บาทผลิตตามวันและเวลาที่ปรากฏ