top of page

เปิดเสรีธนาคาร เพื่อลดช่องว่าง ดอกกู้ ดอกฝาก - แนวทางลดการผูกขาดของธนาคารพาณิชย์เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม


ระบบธนาคารพาณิชย์ของประเทศไทยในปัจจุบัน แม้จะดูเหมือนเปิดเสรีในระดับหนึ่ง แต่ในทางปฏิบัติกลับเป็นตลาดที่มีลักษณะกึ่งผูกขาดสูงมาก กลุ่มธนาคารขนาดใหญ่เพียงไม่กี่แห่งครองส่วนแบ่งตลาดสินเชื่อ เงินฝาก และธุรกรรมทางการเงินที่สำคัญของประชาชนและภาคธุรกิจ หากพิจารณาโครงสร้างอัตราดอกเบี้ย จะพบว่าธนาคารสามารถตั้งส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยเงินฝากกับดอกเบี้ยเงินกู้ (Spread) ได้สูงโดยไม่มีแรงกดดันจากการแข่งขัน

นี่คือภารกิจของการเปิดเสรีอย่างแท้จริง เพื่อให้เกิด "การแข่งขันที่แท้จริง" ไม่ใช่เพียงการแข่งขันเชิงสัญลักษณ์ระหว่างแบรนด์ แต่เป็นการแข่งขันที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นรายใหม่เข้าสู่ตลาด ลดอำนาจผูกขาด สร้างประโยชน์ต่อประชาชน และปลดปล่อยระบบการเงินไทยให้คล่องตัว โปร่งใส และเสรีมากขึ้น

1. วิเคราะห์ปัญหาโครงสร้าง: ตลาดธนาคารไทยยังผูกขาดหรือไม่?

ธนาคารขนาดใหญ่ 5 แห่ง ครองสินทรัพย์รวมกันมากกว่า 70% ของระบบธนาคารทั้งประเทศ✅ ธนาคารรายใหม่แทบไม่มีโอกาสแข่งขันในตลาดดั้งเดิม เพราะติดข้อกำหนดเงินทุนขั้นต่ำ สาขา และกฎระเบียบซับซ้อน✅ Spread ดอกเบี้ยสูง โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 4-6% ซึ่งสูงกว่าหลายประเทศในภูมิภาค เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ หรือแม้แต่เวียดนาม✅ ไม่มีแรงจูงใจให้แข่งขันเพื่อดึงดูดผู้ฝากเงิน ทำให้ดอกเบี้ยเงินฝากต่ำในขณะที่ดอกเบี้ยเงินกู้สูง✅ สินเชื่อรายย่อยหรือ SME เข้าถึงยาก เพราะธนาคารมองความเสี่ยงเป็นหลัก มากกว่าการประเมินโอกาสธุรกิจ

2. แนวทางเปิดเสรีและเพิ่มผู้เล่นใหม่ในตลาด

✅ ยกเลิกการจำกัดใบอนุญาตธนาคารพาณิชย์แบบล้าหลัง

  • เปิดให้บริษัทเทคโนโลยีและการเงิน (Fintech) ที่มีศักยภาพ สามารถขอใบอนุญาตธนาคารดิจิทัลเต็มรูปแบบได้

  • ลดเงินทุนขั้นต่ำสำหรับการจัดตั้งธนาคารประเภทเฉพาะ (เช่น SME Bank, Agri-Bank, Social Bank) ที่ไม่เน้นกำไรสูงแต่เน้นการบริการเฉพาะกลุ่ม

✅ ปรับเกณฑ์ให้แข่งขันได้จริง

  • ใช้แนวคิด "Regulatory Sandbox" อย่างเป็นระบบ ให้ผู้เล่นใหม่สามารถทดสอบนวัตกรรมได้โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนที่ล่าช้า

  • แยกบทบาทการกำกับระหว่างนโยบายการเงินกับการส่งเสริมการแข่งขัน เพื่อไม่ให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อน

✅ สนับสนุนธนาคารท้องถิ่นและธนาคารเฉพาะทาง

  • เปิดทางให้สหกรณ์และกลุ่มเศรษฐกิจฐานรากสามารถขอใบอนุญาตให้บริการทางการเงินในระดับท้องถิ่น

  • ส่งเสริมให้มีธนาคารของภาคประชาชน เช่น Credit Union หรือ Community Bank ที่ไม่เน้นกำไร แต่มุ่งกระจายโอกาสทางการเงิน

3. ลดภาระประชาชนจากส่วนต่างดอกเบี้ยที่ไม่เป็นธรรม

✅ ออกมาตรการบังคับให้ธนาคารแสดง "ดอกเบี้ยจริงที่ประชาชนได้รับหรือจ่าย" อย่างโปร่งใสในทุกผลิตภัณฑ์ทางการเงิน✅ ใช้ AI และระบบ Big Data ของรัฐในการเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแบบ real-time เพื่อให้ผู้บริโภคเลือกได้ง่าย✅ ส่งเสริมแพลตฟอร์ม Digital Lending ที่ไม่ขึ้นกับธนาคารใหญ่ เช่น Peer-to-Peer Lending และ Crowdfunding✅ ให้ภาคประชาชนและองค์กรอิสระสามารถจัดอันดับธนาคารตามความโปร่งใสและอัตราดอกเบี้ยได้อย่างเป็นกลาง

4. กรณีศึกษา: ประเทศที่เปิดเสรีธนาคารแล้วได้ผลจริง

  • สิงคโปร์: เปิดให้ Gojek, Grab, Ant Group ตั้ง Digital Bank ทำให้ตลาดเงินกู้รายย่อยแข่งขันกันจนดอกเบี้ยลดลงกว่า 30% ภายใน 2 ปี

  • สหราชอาณาจักร: ปรับเกณฑ์ใบอนุญาตให้ผู้เล่นรายใหม่สามารถให้บริการธนาคารได้โดยไม่ต้องมีสาขา

  • เกาหลีใต้: ใช้แนวคิด Open Banking เชื่อมบัญชีทุกธนาคาร ทำให้ประชาชนเลือกใช้บริการข้ามธนาคารได้อย่างอิสระ

  • อินเดีย: เปิดเสรีระบบ Payment Bank ให้บริษัทเอกชนเข้ามาสร้างระบบโอนเงิน ฝากเงินผ่านมือถือโดยไม่ต้องเปิดบัญชีธนาคารแบบดั้งเดิม

5. บทบาทของรัฐไทยต้องเปลี่ยนจาก "ผู้คุม" เป็น "ผู้เปิดทาง"

✅ ยุติการคุ้มครองตลาดแบบพิเศษให้ธนาคารขนาดใหญ่ เช่น การผูกขาดบัญชีรับเงินเดือน หรือการเข้าถึงข้อมูลเครดิตแบบไม่เท่าเทียม✅ สร้างระบบข้อมูลเครดิตแห่งชาติแบบเปิด (Open Credit Infrastructure) ให้ทุกผู้เล่นเข้าถึงข้อมูลเดียวกัน✅ สนับสนุนการศึกษาและให้ความรู้ทางการเงินแก่ประชาชน เพื่อเพิ่มอำนาจในการเลือกใช้บริการทางการเงินอย่างมีเหตุผล

บทสรุป

ประเทศไทยจะไม่สามารถปลดล็อกโอกาสทางเศรษฐกิจได้ หากระบบการเงินยังผูกขาดอยู่กับผู้เล่นรายใหญ่ไม่กี่ราย การเปิดเสรีธนาคารไม่ใช่เพียงนโยบายเทคโนแครต แต่คือการคืนอำนาจให้ประชาชน ให้ประชาชนมีสิทธิเลือกดอกเบี้ยที่เป็นธรรม บริการที่โปร่งใส และโอกาสทางการเงินที่เท่าเทียม พรรคเส้นด้ายเชื่อมั่นว่าการเปิดตลาด คือทางออกที่ดีที่สุดในโลกยุคใหม่ที่ต้องอาศัยนวัตกรรม เสรีภาพ และการแข่งขัน

📢 สื่ออิเล็กทรอนิกส์ของพรรคเส้นด้ายนี้ ได้รับการอุดหนุนงบประมาณจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองผู้ว่าจ้าง: พรรคเส้นด้าย เลขที่ 226/1 ถนนเพชรเกษม แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร 10600ผู้ผลิต: บจก.ฟรีมาร์เก็ตเทียร์ เลขที่ 74/6 ถนนพระราม 6 แขวงพญาไท เขตพญาไท กทม 10400จำนวนที่ผลิต: 1 โพสต์งบประมาณ: 3,000 บาทผลิตตามวันและเวลาที่ปรากฏ

 
 
 

Recent Posts

See All
ยกเลิกภาษีน้ำมัน | ประเทศที่ลดภาษีน้ำมัน: ไทยเรียนรู้อะไรได้บ้าง?

หลายประเทศทั่วโลกได้เริ่มต้นลดหรือยกเลิกภาษีน้ำมัน เพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชน ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และสนับสนุนอุตสาหกรรมสำคัญให้สามาร...

 
 
 
ยกเลิกภาษีน้ำมัน | ลดภาษีน้ำมันหรืออุดหนุนราคา แบบไหนคือคำตอบที่ดีกว่าสำหรับประเทศไทย?

เมื่อน้ำมันกลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของทุกคน ราคาน้ำมันที่เปลี่ยนแปลงจึงส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพโดยตรง ตั้งแต่ค่าเดินทางไปทำงานไปจน...

 
 
 

Comments


226/1 ถนนเพชรเกษม แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ 10160

bottom of page