เปิดเสรีธนาคาร เพื่อลดช่องว่าง ดอกกู้ ดอกฝาก - การลดช่องว่างระหว่างดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด
- ZENDAI PARTY

- Dec 10, 2024
- 1 min read
ระบบธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยมีจุดอ่อนสำคัญประการหนึ่งที่กระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมและสร้างภาระโดยตรงกับประชาชน นั่นคือ "ช่องว่างระหว่างดอกเบี้ยเงินฝากและดอกเบี้ยเงินกู้" ที่กว้างเกินความจำเป็น ช่องว่างนี้สะท้อนถึงตลาดที่ขาดการแข่งขัน และธนาคารสามารถทำกำไรจากประชาชนโดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มประสิทธิภาพหรือนวัตกรรม
การลดช่องว่างดอกเบี้ยไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิคการเงิน แต่คือการสร้างความเป็นธรรมในระบบเศรษฐกิจ สร้างความสามารถในการเข้าถึงแหล่งทุน และทำให้เงินหมุนเวียนในระบบเกิดประโยชน์กับผู้คนมากกว่าผู้ถือหุ้นธนาคารเพียงไม่กี่ราย พรรคเส้นด้ายเสนอแนวทางปฏิรูประบบดอกเบี้ยเพื่อคืนสมดุลระหว่างธนาคารและประชาชน
1. วิเคราะห์ปัญหาช่องว่างดอกเบี้ย: โครงสร้างที่เอื้อต่อการเอาเปรียบ
✅ ดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์เฉลี่ยอยู่ที่ 0.25-1% ขณะที่ดอกเบี้ยเงินกู้ SME อยู่ที่ 6-12% และสินเชื่อบุคคลสูงถึง 20-28%✅ ส่วนต่าง (spread) ระหว่างดอกเบี้ยเงินฝากกับเงินกู้ในไทยอยู่ราว 5-6% ขณะที่ในประเทศพัฒนาแล้วอยู่ที่ 2-3%✅ สาเหตุหลักมาจากตลาดที่ขาดแรงกดดันในการแข่งขัน ไม่มีผู้เล่นรายใหม่ที่ท้าทายธนาคารเดิมได้จริง✅ ประชาชนไม่มีทางเลือก ต้องยอมรับอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกำหนดจากฝั่งธนาคารฝ่ายเดียว✅ ช่องว่างนี้ส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมของภาคธุรกิจและประชาชนสูงเกินความจำเป็น และทำให้ต้นทุนชีวิตสูงขึ้นอย่างถาวร
2. กลไกการลดช่องว่างดอกเบี้ยแบบยั่งยืน
✅ เปิดทางให้เกิดการแข่งขันเสรีในตลาดสินเชื่อ
ปลดล็อกข้อจำกัดการจัดตั้งสถาบันการเงินขนาดเล็ก เช่น ธนาคารท้องถิ่น, Digital Lending Platform, Peer-to-Peer Lending
ลดกฎระเบียบที่ไม่จำเป็น เช่น เงื่อนไขสินทรัพย์ขั้นต่ำ หรือข้อจำกัดด้านรูปแบบธุรกรรม เพื่อให้ผู้เล่นใหม่เข้าสู่ตลาดง่ายขึ้น
✅ ส่งเสริมระบบข้อมูลกลางที่โปร่งใส
จัดตั้งระบบข้อมูลดอกเบี้ยกลางแบบ real-time ที่ให้ประชาชนเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยทุกธนาคารและทุกผลิตภัณฑ์ได้อย่างง่ายดาย
ให้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบค่าธรรมเนียมแฝง อัตราดอกเบี้ยแท้จริง (APR) และข้อผูกพันสัญญาต่าง ๆ ได้อย่างโปร่งใส
✅ ปฏิรูประบบสินเชื่อรายย่อย
ส่งเสริมสินเชื่อที่ประเมินจากศักยภาพทางเศรษฐกิจของผู้กู้ ไม่ใช่แค่เครดิตบูโรหรือรายได้ประจำ
หนุนให้เกิดระบบ Credit Scoring ใหม่ที่ครอบคลุมผู้ประกอบการรายย่อยและแรงงานนอกระบบ
3. บทบาทของรัฐในการปรับดุลอำนาจ
✅ ยุติการค้ำประกันดอกเบี้ยต่ำเฉพาะบางกลุ่มธนาคาร แต่ให้มีมาตรฐานเดียวกันทั่วตลาด✅ ควบคุมไม่ให้ธนาคารใช้อำนาจต่อรองกำหนดดอกเบี้ยสูงผิดปกติในกลุ่มที่ไม่มีทางเลือก เช่น ผู้มีรายได้น้อยหรือไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน✅ ใช้กลไกภาษีสนับสนุนการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำอย่างแท้จริง เช่น ลดภาษีรายได้สำหรับดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตลาด✅ สนับสนุนสถาบันการเงินชุมชนและธนาคารภาคประชาชนให้เข้มแข็ง เป็นทางเลือกแข่งขันกับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่
4. ประชาชนต้องมี "สิทธิทางการเงิน" (Financial Rights)
✅ สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมแบบชัดเจน เปรียบเทียบได้✅ สิทธิในการปิดบัญชี ย้ายบัญชี หรือเปลี่ยนผู้ให้บริการสินเชื่อโดยไม่มีค่าปรับเกินควร✅ สิทธิในการอุทธรณ์หรือร้องเรียนเมื่อถูกเรียกเก็บดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียมไม่เป็นธรรม✅ สิทธิในการเข้าถึงสินเชื่อจากหลายแหล่ง ไม่ผูกขาดอยู่กับธนาคารใหญ่เพียงไม่กี่แห่ง
บทสรุป
ดอกเบี้ยไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่คือต้นทุนชีวิต ต้นทุนธุรกิจ และตัวชี้วัดความเสมอภาคในระบบเศรษฐกิจ การปล่อยให้ธนาคารกำหนดดอกเบี้ยโดยไม่มีการแข่งขันที่แท้จริง เท่ากับปล่อยให้กลุ่มทุนไม่กี่รายกำหนดอนาคตประชาชน พรรคเส้นด้ายยืนยันว่าการเปิดเสรี ลดช่องว่างดอกเบี้ย และคืนดุลอำนาจในระบบการเงิน คือทางรอดของเศรษฐกิจไทยที่แท้จริง
📢 สื่ออิเล็กทรอนิกส์ของพรรคเส้นด้ายนี้ ได้รับการอุดหนุนงบประมาณจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองผู้ว่าจ้าง: พรรคเส้นด้าย เลขที่ 226/1 ถนนเพชรเกษม แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร 10600ผู้ผลิต: บจก.ฟรีมาร์เก็ตเทียร์ เลขที่ 74/6 ถนนพระราม 6 แขวงพญาไท เขตพญาไท กทม 10400จำนวนที่ผลิต: 1 โพสต์งบประมาณ: 3,000 บาทผลิตตามวันและเวลาที่ปรากฏ
Comments