ไม่เอาประชานิยม ทำไมพรรคเส้นด้ายเลือกแนวทางที่แตกต่าง
- ZENDAI PARTY
- Dec 10, 2024
- 1 min read
Updated: Mar 21

ไม่เอาประชานิยม: ทำไมพรรคเส้นด้ายเลือกแนวทางที่แตกต่าง
นโยบายแจกเงินหรือ "ประชานิยมแบบแจกเงิน" กลายเป็นเครื่องมือยอดนิยมของรัฐบาลทั่วโลกในการบรรเทาปัญหาความยากจนและกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่คำถามสำคัญคือ มันเป็นทางออกที่ยั่งยืนจริงหรือไม่? พรรคเส้นด้ายเชื่อว่า "ไม่" และนี่คือเหตุผลว่าทำไมนโยบายนี้ไม่ใช่คำตอบของการพัฒนาประเทศในระยะยาว
แจกเงินช่วยได้แค่ระยะสั้น แต่ทำลายอนาคตระยะยาว
การแจกเงินอาจช่วยให้ประชาชนรู้สึกดีขึ้นในช่วงสั้น ๆ แต่ในระยะยาว มันกลายเป็นภาระที่หนักหน่วงต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ เงินที่ใช้แจกนั้นมาจากงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งหมายถึงภาษีของประชาชน หากไม่มีการบริหารที่มีประสิทธิภาพ รัฐบาลจะต้องกู้เงินเพิ่มขึ้น ซึ่งหมายถึงหนี้สาธารณะที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ
นักเศรษฐศาสตร์หลายคนเตือนว่า นโยบายประชานิยมเช่นนี้อาจส่งผลกระทบต่อดุลการเงินการคลังของประเทศ หากไม่มีแหล่งรายได้มาทดแทน การแจกเงินอย่างต่อเนื่องอาจทำให้ประเทศเข้าสู่ภาวะหนี้สินล้นพ้นตัว และบีบให้ต้องลดงบประมาณด้านการพัฒนาในระยะยาว
และใครคือคนที่ต้องจ่ายหนี้เหล่านั้น? คำตอบคือ ประชาชนเองและคนรุ่นถัดไป
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือประเทศกรีซ ที่ใช้นโยบายประชานิยมอย่างหนักจนทำให้เกิดวิกฤตหนี้สาธารณะในปี 2010 หรือเวเนซุเอลา ที่ระบบเศรษฐกิจล่มสลายจากการแจกเงินและสวัสดิการโดยไม่มีแหล่งรายได้รองรับ
แจกเงินไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นตอ
ปัญหาความยากจนไม่ได้เกิดจากการมีเงินไม่พอเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง เช่น
ขาดโอกาสทางการศึกษา: เด็กจำนวนมากไม่มีโอกาสเข้าถึงระบบการศึกษาที่มีคุณภาพ ทำให้ไม่มีทักษะที่เพียงพอสำหรับตลาดแรงงาน
ตลาดที่ไม่โปร่งใส: ธุรกิจขนาดเล็กไม่สามารถแข่งขันกับธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีเส้นสายทางการเมือง
ทักษะแรงงานล้าหลัง: คนจำนวนมากไม่ได้รับการฝึกอบรมทักษะที่ตลาดแรงงานต้องการ
การแจกเงินเป็นเพียงการบรรเทาความเดือดร้อนชั่วคราว แต่มันไม่สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ การพึ่งพาการแจกเงินในระยะยาวทำให้ประชาชนขาดแรงจูงใจในการพัฒนาตนเอง และทำให้เศรษฐกิจติดอยู่ในวงจรของการใช้เงินโดยไม่มีผลตอบแทนที่แท้จริง
แจกเงินทำลายวินัยการเงินการคลังของประเทศ
ในระยะยาว การแจกเงินมากเกินไปทำให้รัฐบาลต้องลดการลงทุนในโครงการที่ให้ผลตอบแทนระยะยาว เช่น การศึกษา โครงสร้างพื้นฐาน หรือการพัฒนานวัตกรรม เพราะงบประมาณถูกใช้ไปกับการแจกเงินแทน
นักเศรษฐศาสตร์ชี้ให้เห็นว่า นโยบายที่ส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืน เช่น การลงทุนในเทคโนโลยี การปรับโครงสร้างแรงงาน และการพัฒนาการศึกษาที่มีคุณภาพ เป็นวิธีที่ดีกว่าในการทำให้ประเทศแข่งขันได้ในเศรษฐกิจโลก
ยิ่งไปกว่านั้น การแจกเงินยังสามารถกระตุ้นภาวะเงินเฟ้อได้ หากรัฐบาลอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโดยไม่มีการผลิตที่เพิ่มขึ้น ราคาสินค้าและบริการจะพุ่งสูงขึ้น สุดท้ายประชาชนก็ต้องกลับมาทนทุกข์กับค่าครองชีพที่แพงขึ้นกว่าเดิม
แล้วเราควรทำอะไรแทน?
พรรคเส้นด้ายเสนอแนวทางที่ยั่งยืนกว่าการแจกเงิน โดยเน้นไปที่การสร้างโอกาสให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างแท้จริง ผ่านนโยบายสำคัญดังต่อไปนี้:
ปฏิรูปการศึกษา: ให้เด็กทุกคนสามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ โดยเน้นการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน
สร้างตลาดที่โปร่งใส: สนับสนุนให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถแข่งขันได้อย่างยุติธรรม ลดอุปสรรคทางกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อผู้ประกอบการ
พัฒนาทักษะแรงงาน: จัดอบรมและฝึกงานในอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต เพื่อให้แรงงานไทยมีโอกาสได้งานที่ดีขึ้น
ส่งเสริมการลงทุน: ดึงดูดธุรกิจใหม่ ๆ ให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย สร้างงานที่มั่นคง และเพิ่มผลิตภาพของเศรษฐกิจ
“แจกเงินไม่ใช่การแก้ปัญหา แต่คือการเลื่อนปัญหาออกไป”
การแจกเงินอาจทำให้รัฐบาลได้รับความนิยมในช่วงสั้น ๆ แต่ในระยะยาว มันคือหายนะทางเศรษฐกิจ พรรคเส้นด้ายเลือกแนวทางที่สร้างโอกาสให้ประชาชนพึ่งพาตนเองได้ เพราะเราเชื่อว่าคนไทยทุกคนมีศักยภาพที่จะยืนหยัดได้อย่างภาคภูมิ โดยไม่ต้องรอเงินจากใคร
แทนที่จะมองหานโยบายที่ให้ผลลัพธ์เร็วแต่ไม่ยั่งยืน เรามาร่วมกันสร้างประเทศไทยที่แข็งแกร่งจากรากฐานที่มั่นคง และให้ประชาชนมีโอกาสที่แท้จริงในการสร้างอนาคตที่ดีกว่าด้วยตนเอง นี่คือทางเลือกที่พรรคเส้นด้ายเชื่อมั่น และพร้อมจะเดินหน้าสู่อนาคตที่มั่นคงร่วมกับคนไทยทุกคน
สื่ออิเล็กทรอนิกส์ของพรรคเส้นด้ายนี้ ได้รับการอุดหนุนงบประมาณจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง
ผู้ว่าจ้าง พรรคเส้นด้าย เลขที่ 226/1 ถนนเพชรเกษม แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร 10600
ผู้ผลิต บจก.ฟรีมาร์เก็ตเทียร์ เลขที่ 74/6 ถนนพระราม 6 แขวงพญาไท เขตพญาไท กทม 10400
จำนวนที่ผลิต 1 โพสต์ งบประมาณ 3,000 บาท ผลิตตามวันและเวลาที่ปรากฏ